oat-urasak
release date:

January 01, 1970

share:

oat surasak

  • Comming soon...

ความจริงคืออ่อนแอ

จากความฝันที่อยากเล่นดนตรีตั้งแต่เด็กๆ จากกีตาร์โปร่ง fujiyama ที่แม่ซื้อให้ ตั้งแต่ตอนประถม เลยทำให้มีแรงบันดาลใจที่อยากจะเล่นดนตรีอยากจะร้องเพลง ซื่งพ่อแม่และครอบครัวก็ไม่เคยปิดโอกาส จากนั้นก็เรียนเล่นกีฬาและเล่นดนตรี มาเรื่อยๆ จนมหาวิทยาลัย เนื่องจากเราอาจจะเล่น กีตาร์ไม่ค่อยเก่ง เหมือนเพื่อนๆแค่พอถูๆไถๆได้เพื่อนเลยไล่ไปร้องนำ เลยกลายเป็นนักร้องประจำวงตั่งแต่นั้นมา

จากการเป็นคนชอบคิด ชอบเขียน เลยมีความคิดอยากจะเขียนเพลงเอง แต่เนื่องจากไม่เก่งดนตรี ไม่เคยเรียนร้องเพลงไม่เคยเรียนเขียนเนื้อเพลง ทำได้แค่เพียงอย่างเดียวคือ เคาะจังหวะ แล้วก็จดๆๆๆๆ เนื้อตามความคิดให้เข้ากับจังหวะ เขียนๆเคาะๆเอาไว้หลายเพลง ก็ทำได้แค่อัดเป็น voice เอาไว้ฟังเอง

จนวันนึงก็นึกสนุกกับ เพื่อน ชื่อ จู ศราวุธ ระวัง เพื่อที่เล่นดนตรีด้วยกันตอนมหาลัย เอาเพลงเราไปให้ จู ฟังจูบอกว่าทำเล่นๆกันสนุกดี จึงเกิดไฟในการทำดนตรีขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ทำกันขึ้นมา เล่นกันเองอัดกันเองแบบง่ายๆในห้องซ้อมดนตรี แล้วสุดท้ายก็เก็บไว้ฟังกันเอง เลยทำให้มันมอดลงอีกครั้ง และเวลาก็ผ่านไป จนความบังเอิญในชีวิตได้เข้ามา ได้มีโอกาส ได้ทำงานในฐานะนักแสดงของช่อง 7 สี และได้รับโอกาสร้องเพลงละครด้วยตัวเองตั้งแต่ละครเรื่องแรกที่เล่น คือเรื่อง “แรงฤทธิ์พิศวาส” และอีกหลายๆเรื่องต่อๆมา มีโอกาสได้ขึ้นเวที่ 7สีคอนเสิร์ตหลายครั้ง

จนวันนึงช่อง 7สีมีโปรเจค ทำวงดนตรีของช่องขึ้นมาภายใต้ชื่อวง CH.7 band โอ๊ดได้ถูกคัดเลือกเป็นนักร้องและมือกีต้าร์ ของวง ด้วยซึ่งถือว่าได้รับเกียรติมากๆ จาก CH.7 band จึงทำให้รู้จักกับ รุ่นพี่ ที่น่ารักคนนึงซึงเป็น Music Director และเป็นมือกลองของวงCH.7 band ทราบภายหลังว่า คือพี่ป๋วย คงยศ วงษ์วิกย์กรณ์ หรือ พี่ป๋วย วง P2WARSHIP วงที่เราชื่นชอบเพลงและทำเอาไปร้องอยู่บ่อยๆ ซ้อมและเล่นคอนเสิร์ตกันอยู่หลายคอนเสิร์ต และหลังจากนั้น ทางโครงการก็ เปลี่ยนโครงการไปตามความเหมาะสม เราก็แยกย้ายตามความเหมาะสม จากนั้นก็ลุยถ่ายละครอย่างเดียว จนมาถึงวันนึงไปออกกำลังกายแล้วอยู่ๆ เนื้อเพลงเพลงนึงก็วิ่งเข้ามาในสมอง ก็หยุดเล่นกีฬามาเคาะโต๊ะและเขียนเนื้อจนจบเพลง แล้วความคิดเก่าๆก็เข้ามา ที่อยากจะผลิตผลงาน ออกมา อย่างน้อยให้มันเสร็จ เป็นเพลง ให้ได้มีคนได้ฟัง อย่างน้อยใครชอบไม่ชอบเพลงที่เราทำก็ไม่เป็นไร เพราะเค้าก็ได้ฟังเพลงของเราแล้ว ดีกว่าที่จะเก็บมันไว้ในกระดาษ แล้วใครสักกี่คนจะได้อ่านกระดาษใบนั้น จึงคิดถึง พี่ป๋วย และเอาเรื่องราวทั้งหมดที่เรามี มาเล่าให้พี่ป๋วยฟัง พี่ป๋วยใจดีและให้ โอกาส จากเพลงที่อยู่ในกระดาษ จากดนตรีที่เคาะโต๊ะมาให้พี่ฟัง พี่ป๋วย ก็ขัดเกลาจนออกมาเป็นเพลงที่เป็นรูปเป็นร่างเหมือนเพลงคนอื่นๆเค้า จากคนที่แค่เคยร่วมงาน จนกลายเป็นเพื่อน เป็นพี่ และคอยดูแลให้คำปรึกษา และนำพาน้องคนนี้เข้าสู่วงการของเพลง ได้เจอรุ่นพี่นักร้องนักดนตรีที่เราชื่นชอบชื่นชมมากมาย และนำพาฝันที่เคยตั้งเอาไว้ตั้งแต่ตอนเด็กๆ นำพาเพลงที่อยู่ในกระดาษออกมาเป็นเสียงร้องและดนตรี กับเพลงๆแรกของโอ๊ด “ความจริงคืออ่อนแอ”

No Comments

ใส่ความเห็น